ค่าใช้จ่ายในการรักษา “มะเร็ง”

มีอะไรบ้าง แพงแค่ไหน


ค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็ง “ไม่มี” คำว่า “ถูก”

เบื้องต้นสำหรับการรักษาพื้นฐานแบบยังไม่ต้องใช้นวัตกรรมทางการแพทย์มากนัก (ไม่ใช้ยามุ่งเป้า หรือ ภูมิคุ้มกันบำบัด)

การรักษามะเร็งครั้งแรกน่าจะต้องใช้เงินประมาณ​ 200,000 ถึง 500,000 บาท นี่คือตัวเลขคร่าวๆ สำหรับผู้ที่จะต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเอง

ค่าใช้จ่ายที่จะมีในการรักษามะเร็ง

อันที่ 1 ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่โดยรวมแล้วเยอะที่สุด ซึ่งจะกล่าวต่อไปในส่วนของค่ายา

อันที่ 2 ค่าเดินทางค่าที่พัก กรณีที่ต้องรักษาข้ามจังหวัด เช่น อยู่ต่างจังหวัดอยากจะมารักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ญาติก็ต้องมีที่พัก เสียค่าโรงแรม ค่าห้องเช่า เป็นต้น รวมทั้ง ค่าเดินทาง ไม่ว่าจะขับรถเองหรือใช้บริการรถสาธารณะ ก็มีค่าใช้จ่าย ทั้งนั้น ควรจะคิดไว้ด้วย เพราะว่าการรักษาพยาบาล ไม่ได้มากันแค่ 1- 2 ครั้ง แต่จะต้องมีการติดตามการรักษาไปตลอดชีวิต

อันที่ 3 ค่าเสียโอกาสในการทำงาน คนไข้มะเร็งช่วงรักษาใช้เวลารักษาอย่างน้อยๆ 2 ถึง 6 เดือน นั่นแปลว่าอาจจะต้องมีช่วงเวลาที่จำเป็นที่จะต้องลางาน บอกกับเจ้านายไว้ด้วยว่าจะมีบางช่วงที่ไปทำงานไม่ได้ บางบริษัทเขาก็ไม่จ่ายเงินเดือน ลามารักษามะเร็งนานเกินไปเขาก็ลดเงินเดือน ที่แย่ที่สุดก็คือบางบริษัทก็ให้ออกเลยค่ะ ถือว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แบบนี้ทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินของผู้ป่วยและครอบครัว ยิ่งถ้าสมมติว่าคนที่ป่วย เป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงชีพ หาเลี้ยงครอบครัว ก็ยิ่งทำให้ครอบครัวลำบากมากขึ้นไปด้วย

อันที่ 4 ค่าจ้างคนดูแล – ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ บางทีเราอยู่กับพ่อแม่ 2-3 คน และสุขภาพท่านก็ไม่ได้แข็งแรงมาก จำเป็นที่จะต้องหาคนเฝ้า ก็ต้องมีค่าจ้าง อาจจะเป็นรายวัน รายกะ รายเดือน ก็ขึ้นอยู่กับว่าการพักฟื้นของผู้ป่วยมะเร็งนั้นใช้ระยะเวลายาวนานเท่าไหร่ ยิ่งนานก็แปลว่าค่าใช้จ่ายพวกนี้ก็จะต้องยิ่งสูงขึ้น ต่อมาเป็นกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกเคส เช่น บางเคสต้องมีออกซิเจน มีเครื่องดูดเสมหะที่บ้าน อาจจะต้องมีการเปลี่ยนถุงหน้าท้องในกรณีที่คนไข้ผ่าตัดแล้วไม่มีรูทวารอีกต่อไป

อันดับ 5 ความเสียหายทางด้านจิตใจทั้งตนเองและก็ครอบครัว มีภาวะซึมเศร้า ก็ต้องไปรักษาตัวเองอีก สียค่ายา ค่าพบหมอจิตเวช เป็นต้นนะ ยังไม่นับค่าความกังวล การทำงานลดประสิทธิภาพลง ซึ่งค่าความเสียหายกลุ่มนี้ประเมินค่าไม่ได้

จะเห็นว่าค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษามะเร็ง ก็มีทั้งทางตรงแล้วก็ทางอ้อม

คราวนี้เรามาเจาะกันเรื่อง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล กันบ้าง

  1. การวินิจฉัย ค่าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ก็มีตั้งแต่ 3,000 จนถึง 10,000 บาท
  2. MRI เบื้องต้นขึ้อยู่กับความซับซ้อนของการอ่านผล แต่คร่าวๆ ครั้งละประมาณ 10,000 บาท และเมื่อรักษามะเร็งก็จะต้องมีไปการตรวจติดตามผลเป็นระยะๆ
  3. ค่าฉายรังสี ต่อคอร์ส ในโรงพยาบาลรัฐบาลก็ประมาณ 200,000 บาท โรงพยาบาลเอกชน ตั้งแต่ 300,000 บาท จนถึง 800,000 ต่อคอร์ส ซึ่งการใช้รังสี มักจะฉายครั้งเดียว จะฉายคอร์สที่ 2 ก็ต่อเมื่อมีการกำเริบ ฉะนั้นการรักษาครั้งแรกจึงสำคัญที่สุด
  4. มะเร็งบางชนิดต้องผ่าตัด ก็จะมีค่าผ่าตัด โรงพยาบาลรัฐค่าใช้จ่ายผ่าตัดเล็ก 5,000 บาท ผ่าตัดใหญ่ขึ้นก็ไปได้ถึง 50,000 บาท แต่ถ้าไปอยู่ในคลินิกพิเศษ (รพ.รัฐ) ก็จะขึ้นไปถึง 100,000 หรือ 200,000 บาท และถ้าเป็นรพ. เอกชน ก็จะมากกว่านี้ค่ะ

ถัดไปเป็นเรื่องของ ยารักษามะเร็ง ยารักษามะเร็งปัจจุบันมีหลายแบบ

  1. ดั้งเดิมก็คือ เคมีบำบัด หลักร้อยก็มีค่ะ แพงขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นหลักหมื่น แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เกิน 50,000 บาทต่อคอร์ส คอร์สนึงคืออาจจะทุก 3 สัปดาห์หรือทุก 4 สัปดาห์ ยาเคมีในบางโรคก็ให้ทุก 2 สัปดาห์
  2. ยาที่แพงคือ ยามุ่งเป้าและยาภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งปกติมักจะใช้ในมะเร็งระยะแพร่กระจาย และเวลาให้ก็จะให้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะดื้อยา คิดเป็นเลขกลมๆ สำหรับยามุ่งเป้ากับยาภูมิคุ้มกันบำบัด ค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 50,000-200,000 บาทต่อเดือน ให้ไปเรื่อยๆจนกระทั่งดื้อยา พอดื้อยาก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นนะ ถ้าสมมุติว่าเอาตัวเลขกลมๆแล้วก็คูณ 12 (เดือน) เข้าไปเป็นปีนึง ก็จะประมาณ 2.4 ล้านต่อปี ถ้า 2 ปี ก็เกือบ 5 ล้าน และยากลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ จะมีข้อจำกัดในการเบิกรักษา ตั้งแต่เบิกไม่ได้เลย ไปจนถึงเบิกได้เพียงตัวยาบางตัวเท่านั้นซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบการรักษาที่ค่อนข้างล้าสมัยแล้วด้วยค่ะ

เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เป็นโรคมะเร็งและใช้ยามุ่งเป้าเช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ เตรียมเงินไว้เยอะๆ เลยค่ะ เพราะว่าเวลาที่เป็นมะเร็งแพร่กระจายแล้วการรักษาคือรักษาไปเรื่อยๆเลยนะคะ ตราบเท่าที่คนไข้ยังแข็งแรงเดินเหินใช้ชีวิตได้ และ ผลข้างเคียงไม่มาก และยังมีความสามารถในการจ่ายค่ายาได้ ก็จะรักษากันไปได้เรื่อยๆ เลย ย้ำอีกครั้งว่า แค่ค่ายากลุ่มนี้อย่างเดียว สำหรับโรงพยาบาลรัฐบาล ค่าใช้จ่ายอาจไปได้ไกลถึง ปีละ 2,400,000 บาท


จะเห็นว่าค่ารักษาพยาบาลโรงมะเร็งนั้นสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการใช้ยามุ่งเป้า หรือ ยาภูมิคุัมกันบำบัดร่วมด้วย


ประสิทธิภาพการรักษาพยาบาลและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแลกมาด้วยค่ารักษาพยาบาลหลักล้านต่อปี เลยทีเดียว


ในมุมการวางแผนการเงิน นี่ถือเป็นความเสี่ยงหลักที่เราต้องให้ความสำคัญ ก่อนจะซื้อประกัน หรือโอนย้ายความเสี่ยงใดๆ นี่คือประเด็นสำคัญว่าประกันนั้นจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีโรงมะเร็งอย่างไร อย่าพิจารณาแค่เบี้ยถูก หรือ ค่าห้องสูงๆ เพียงอย่างเดียว เพราะมันอาจจะไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ในชีวิต ที่เราควรจัดการ


ไว้ในตอนหน้าจะมาเขียนเรื่องแนวทางการทำประกันจัดการความเสี่ยงเรื่องนี้กันต่อไปค่ะ


ด้วยความปรารถนาดี

ข้าวปุ้น

นักวางแผนการเงิน CFP



#MeeMoney #วางแผนประกันสุขภาพ #ค่ารักษามะเร็ง #ประกันมะเร็ง #โอนย้ายความเสี่ยง


© All 2021 All rights reserved. by MeeMoney